เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน เพื่อแสดงความคิดเห็น/โหวต

มหันตภัย “แร่ใยหิน” คร่าชีวิตได้อย่างคิดไม่ถึง


แร่ใยหินอันตรายใกล้ตัวที่คุณอาจไม่เคยรู้

มีการยืนยันจากองค์การอนามัยโลกระบุว่า ใยหินทุกชนิดรวมถึงไครโซไทล์ที่ยังใช้อยู่ในปัจจุบันเป็นสารก่อมะเร็ง ซึ่งการได้รับสัมผัสใยหินจะก่อให้เกิดโรคหลายชนิด ได้แก่ มะเร็งปอด มะเร็งเยื่อหุ้มปอด แอสเบสโตสิส (พังผืดในปอด) หินปูนเกาะเยื่อหุ้มปอด เยื่อหุ้มปอดหนา และน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอด นอกจากนี้ ยังอาจก่อให้เกิดมะเร็งกล่องเสียงและมะเร็งชนิดอื่น ๆ ได้

การได้รับสัมผัสใยหินโดยมากมักผ่านทางการหายใจและการกินเข้าไป โดยเฉพาะในปัจจุบัน ประชากรส่วนใหญ่ได้รับทางการหายใจใยหินที่ปนเปื้อนในอากาศเป็นหลัก นอกจากนี้ อาจได้รับส่วนน้อยทางการดื่มน้ำที่มีใยหินปนเปื้อนจากการสลายตัวของใยหินตามธรรมชาติ แหล่งทิ้งขยะใยหิน หรือท่อซีเมนต์ใยหินที่มีการเสื่อมสภาพ ครอบครัวของคนที่ทำงานสัมผัสใยหินสามารถรับสัมผัสจากใยหินที่ติดตามผมหรือเสื้อผ้าของคนที่ทำงานมาที่บ้าน

นอกจากนี้ผู้ที่ทำงานสัมผัสใยหินโดยตรง จะได้รับผ่านทางการหายใจเป็นส่วนมาก และทางการกินเป็นส่วนน้อย กลุ่มที่ทำงานสัมผัสกับใยหิน เช่น คนงานเหมืองแร่ใยหิน คนงานโรงงานผลิตใยหิน คนงานอุตสาหกรรมที่ใช้ใยหินเป็นวัตถุดิบ คนงานก่อสร้างที่ต้องตัดเจียรกระเบื้องมุงหลังคา กระเบื้องปูพื้น หรือรื้อถอนอาคารที่มีวัสดุที่มีใยหินเป็นส่วนประกอบ คนงานอุตสาหกรรมรถยนต์ ช่างยนต์ในขณะเปลี่ยนผ้าเบรคหรือคลัทช์ คนงานที่ทำหน้าที่จัดการขยะที่มีใยหินเป็นส่วนประกอบ เป็นต้น

📍จุดยืนสังคมไทยไร้แร่ใยหิน

กว่า 13 ปีที่ผ่านมา มีมติเกี่ยวกับมาตรการสังคมไทยไร้แร่ใยหิน* เพื่อสุขภาพของประชาชนไทยทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2554 โดยมีมาตรการทำให้สังคมไทยไร้แร่ใยหินด้วยการบริหารจัดการ การฟุ้งกระจายของแร่ใยหินในวัสดุต่าง ๆ ที่หมดอายุการใช้งานในชุมชน และส่งเสริมให้มีการวิจัยเพื่อผลิตผลงานผลิตภัณฑ์ทางเลือกทดแทนการใช้แร่ใยหินในประเทศไทย

นอกจากนี้ยังมีแนวทางการบริหารจัดการความเป็นอันตรายของแร่ใยหินไครโซไทล์ โดยห้ามนำเข้าแร่ใยหินไครโซไทล์ และผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของแร่ใยหินไครโซไทล์เฉพาะกรณี และห้ามผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของแร่ใยหินไครโซไทล์ ที่ใช้วัตถุดิบอื่นหรือใช้ผลิตภัณฑ์อื่นทดแทนได้ โดยให้กระทรวงอุตสาหกรรมจัดทำแผนในการยกเลิกการนำเข้า ผลิต และจำหน่ายแร่ใยหินและผลิตภัณฑ์ที่มีแร่ใยหินเป็นส่วนประกอบทุกชนิด รวมถึงทางกระทรวงสาธารณสุขได้ลงพื้นที่ไปศึกษาผลกระทบของแร่ใยหินที่มีต่อสุขภาพของผู้ใช้แรงงานที่ทำงานสัมผัสแร่ใยหินและผู้บริโภคที่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของแร่ใยหิน
*มติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ปี พ.ศ. 2553

cr.ข้อมูลจากplewseengern

276
สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ สช. - สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.)
29 ก.พ. 67 - 09:35

1 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1

ป้องกันตนเอง ห่างไกลแร่ใยหิน

ถึงแม้จะมีการหลีกเลี่ยงการสัมผัสแร่ใยหิน และใช้อุปกรณ์ป้องกัน เช่น หน้ากากอนามัย ถุงมือ แว่นตา เมื่อต้องทำงานกับใยหิน รวมถึงทำความสะอาดพื้นที่ที่มีใยหินอย่างถูกวิธีแล้วนั้น ก็อาจจะยังไม่เพียงพอต่อการป้องกันอันตรายจากแร่ใยหิน ท้ายที่สุดแล้วการเลิกใช้ใยหิน อาจเป็นวิธีเดียวที่จะสามารถป้องกันอันตรายจากแร่ใยหินที่ดีที่สุด เพราะหากหยุดการใช้แร่ใยหินเป็น 0% เมื่อไหร่ ประชากรบนโลกก็จะลดความเสี่ยงจากโรคปอด มะเร็งปอด และมหันตภัยจากแร่ใยหินได้

สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ สช. - สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.)
29 ก.พ. 67 - 16:35